วันนี้ (17 ม.ค.2567) นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยถึงเหตุโรงงานพลุระเบิดใน จ.สุพรรณบุรี ว่า หลังเกิดเหตุตนได้สั่งการให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุพรรณบุรี และทีม พม.หนึ่งเดียว จ.สุพรรณบุรี ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์ พร้อมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี
เมื่อได้ข้อมูลบางส่วนก็ได้นำมาวางแผนช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่วัดโรงช้าง จ.สุพรรณบุรี
อ่านข่าว : ระทึก! “โรงงานพลุระเบิด” สุพรรณบุรี ตาย 23 คน สาหัส 7 คน
นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวงพม.วางแผนให้นักสังคมสงเคราะห์ เตรียมเข้าประเมินครอบครัวในวันที่ 18 มค. โดยนักสังคมสงเคราะห์แต่ละคน จะเข้าประกบรายครอบครัว ซึ่งข้อมูลของครอบครัวนั้น คาดว่าในคืนวันนี้ จะมีความชัดเจนและเราจะรีบประเมินว่า คนในครอบครัวต้องการการสนับสนุน ต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้าง
อ่านข่าว : ตร.ยืนยันพบศพ 20 คน สูญหาย 3 คน ใน “โรงงานพลุระเบิด” เร่งตรวจอัตลักษณ์
ส่วนแรกคือกำลังใจ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นผู้พิการ ผู้สูงอายุ หรือเด็ก ต้องให้นัก สังคมสงเคราะห์เข้าไปให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบมากเกินไปทางด้านจิตใจ และต้องติดตามผลในระยะยาว
นายอนุกูล กล่าวว่า นอกจากนั้นดูสภาพความต้องการ การช่วยเหลือด้านอื่น เช่นบุคคลที่เสียชีวิตมีลูกเล็ก เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องรับภาระต่าง ๆ ก็ต้องเข้าไปประเมิน และเข้าช่วยเหลือ ส่วนอื่น ๆ ก็เช่นเรื่องซ่อมบ้าน
โดยหลังจากนี้กระทรวงพม. ต้องติดตามตลอดอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้คนในครอบครัวเกิดภาวะผลกระทบจากบุคคลที่เสียชีวิตซึ่ งอาจจะเป็นหัวหน้าครอบครัว ซึ่งคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นผู้พิการ ผู้สูงอายุ เด็ก มีความต้องการการช่วยเหลือเชิงสังคม เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ พม.ก็ต้องประเมินว่า ต้องเติมอะไรบ้าง หากเกินกำลังของกระทรวงพม. ที่จะดูแลก็ต้องเชื่อมกับกระทรวงอื่น ๆ
ด้าน นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ขณะนี้เรายังไม่สามารถเคลื่อนศพของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ออกจากพื้นที่ได้ แต่ก็จะทยอยลำเลียงออกมาไว้ที่วัดโรงช้าง เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ในเช้าพรุ่งนี้ (18 ม.ค.2567)เนื่องจากยังมีเรื่องของฟอสฟอรัสหรือกำมะถันอยู่ ในพื้นที่ค่อนข้างมากพอสมควร
ที่วัดโรงช้าง ทางกระทรวงพม. มีโต๊ะรับเรื่องราวร้องทุกข์ หรือปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้ามาแจ้งความจำนง 23 ราย ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือต่อไป แต่ที่สำคัญมากไปกว่านั้นคือเรื่องของสภาพจิตใจจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่รุนแรงมากเราจึงต้องรีบเยียวยาความรู้สึกให้เร็วที่สุด ด่วนที่สุด
เวลาความสูญเสียแต่ละครั้ง ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญมากกว่าทรัพย์สินเงินทองก็คือเรื่องของความรู้สึกของผู้สูญเสียสมาชิกในครอบครัวไป กระทรวง พม. จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ จะทำอย่างเต็มที่
