วันนี้ (9 ส.ค.2566) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นาย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนากล้า นายเชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ หัวหน้าพรรคพลังสังคมใหม่ และ นายบัญชา เดชเจริญศิริกุล หัวหน้าพรรคท้องที่ไทย และ นายวรเชษฐ เชิดชู เลขาธิการพรรคเพื่อไทรวมพลัง ร่วมแถลงจัดตั้งรัฐบาล
นพ.ชลน่าน กล่าวถึงแนวทางจัดตั้งรัฐบาลว่า วันนี้พรรคไทยรวมเสียงเพิ่มเติมจาก 6 พรรค พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคเพื่อไทรวมพลัง พวกเรารวมเสียงมากกว่ากึ่งครึ่งของ สส.ในการจัดตั้งรัฐบาล
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
พรรคเพื่อไทยและทุกพรรคการเมือง คาดหวังอย่างยิ่งว่า จะสามารถคลี่คลายสถานการณ์ และสลายขั้วการเมืองทุกฝ่าย เดินหน้าขอความร่วมมือจากทุกพรรคการเมืองได้ และเสียงสนับสนุนจาก สว.เพื่อเลือกนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ
สามารถบริหารประเทศและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้โดยเร็ว ที่ขณะนี้กำลังเผชิญความเดือดร้อนอย่างรุนแรง การประวิงเวลาออกไปจะยิ่งทำให้เกิดความเสียหาย การจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วจะแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้น
สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า
สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ในนามพรรคชาติพัฒนากล้า ขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่เชิญเข้ามาหารือในการจัดตั้งรัฐบาล โดยพรรคชาติพัฒนากล้า มีความยินดีที่จะบอกว่า ขอตอบรับคำเชิญในการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ โดยมีเหตุผลในการตอบรับมี 5 ข้อ คือ
1.พรรคเพื่อไทยมีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเป็นพรรคอันดับ 2 ที่รับไม้ต่อจากพรรคอันดับ 1
2.ในที่ประชุมหารือ พรรคเพื่อไทยยืนยันทุกพรรคว่า ขณะนี้ได้รวบรวมเสียง สส. เกินกึ่งหนึ่ง ทำให้มั่นใจได้ว่าจะเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก
3.ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย จะไม่มีนโยบายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขมาตรา 112
4.พรรคเพื่อไทยมีความแน่วแน่แก้วิกฤตเศรษฐกิจ พรรคชาติพัฒนากล้า มั่นใจนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยที่เคยมีประสบการณ์ในอดีตมาแล้ว
ซึ่งข้อ 1-4 ที่กล่าวมา ตรงกับนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า
ส่วนเหตุผลข้อ 5 ถือว่ามีความสำคัญ เพราะมาถึงวันนี้เกือบ 3 เดือนแล้วที่ยังไม่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีแต่รัฐบาลรักษาการที่มีขีดจำกัดบริหารประเทศ
วันนี้จึงจำเป็นที่จะต้องมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับต่างประเทศ นักลงทุนและลดความกังวลใจของประชาชน การปล่อยให้มีสูญญากาศ ที่ไม่มีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง จะไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย
ดังนั้นพรรคชาติพัฒนากล้าเห็นว่า จะต้องร่วมกันสนับสนุนให้พรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จและมีความชอบธรรม
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ได้ร่วมกับ 8 พรรคการเมืองเดิม ว่าจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยในวันที่ 4 ส.ค.ที่ได้มีการเลื่อน เลือกนายกฯ เพราะวันที่ 3 ส.ค.ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ขอให้พิจารณากรณีรัฐสภามีมติไม่เห็นชอบกับการเสนอชื่อนายกฯ ซ้ำ และหากในวันที่ 4 ส.ค.มีการโหวตเลือกนายกฯ ก็จะเลือกแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ นี่คือหลักการ
ยอมรับว่า วิกฤตใหญ่สุด คือหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร ที่ต้องรับภารกิจของรัฐธรรมนูญ คือการแต่งตั้งนายกฯ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ซึ่ง 8 พรรคการเมืองเดิม ตกลงกันแล้วว่า จะเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ
โดยบทบาทของพรรคประชาชาติ ได้ประชุมและจะขอให้เดินทางไปถึงแค่พรรคที่ 2 คือพรรคเพื่อไทย ที่จะเป็นนายกฯ ถ้าออกไปจากนี้ก็จะไม่ใช่หลักประชาธิปไตย
การมาร่วมกับพรรคเพื่อไทยยังไม่ได้คุยเรื่องนโยบาย แต่เห็นว่าปัญหาประเทศสำคัญจึงจำเป็นต้องมีนายกฯ และ ใน ครม.ไม่เกิน 35 คน ก็เป็นสิทธิของนายกฯ ที่จะสรรหาผู้ที่จะมาแก้วิกฤตของประเทศ
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทำทุกวิถีทางเพื่อสลายขั้วการเมืองของทุกฝ่าย ให้สามารถเดินหน้าบริหารประเทศได้ จึงขอวิงวอนให้ประชาชนเข้าใจ
ส่วนที่มีเสียงสะท้อนให้รวมกับพรรคนั้นได้ รวมกับพรรคนี้ไม่ได้ อยากลองให้ดูสามก๊ก หรือประวัติศาสตร์ชาติไทยที่สมัยก่อนกษัตริย์ทำศึกสงคราม ถ้าฆ่าแม่ทัพตายไปแล้ว เราจะเอาพลไพร่ไว้เลี้ยงดูต่อไปหรือไม่ เอามาปลูกข้าวดำนาหรือไม่ หรือฆ่าทิ้งให้หมด เปรียบเทียบกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปแล้ว ถือว่าไม่มีแม่ทัพ เราควรเอาหรือไม่
ขณะที่บางคนบอกว่าไม่ได้ แต่ส่วนตัวคิดว่าควรจะเลี้ยงดูไว้ หรือแม้กระทั่งพรรคพลังประชารัฐ แม่ทัพยังอยู่ แต่ยอมแพ้ไปแล้ว เราควรจะเอาพลไพร่ต่างๆ มาเลี้ยงดูหรือไม่ ฝากเป็นข้อคิดให้ประชาชน ขอให้เปิดใจให้กว้างเพื่อสนับสนุนพรรคเพื่อไทยให้สามารถจัดตั้งรัฐบาลให้ได้
นพ.ชลน่าน ตอบคำถามสื่อมวลชน โดยระบุว่า ขณะนี้ที่แถลงว่า มีเสียงสนับสนุนมากกว่ากึ่งหนึ่ง แต่ขณะที่แถลงก็มีเสียงที่รวมได้ 238 เสียง ตามที่สื่อให้ข้อมูล โดยกรณีไม่เอาพรรคลุงจะดึงเสียงจากพรรคนั้นมาสนับสนุนได้อย่างไร ซึ่งพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) จะมีการแถลงเพิ่มเติม ถึงพรรคที่ยังเหลืออยู่ คาดว่าในสัปดาห์นี้คงจะจบทั้งหมด
เมื่อถามว่าจะชวนพรรคอื่น เช่น ปชป., รทสช., พปชร. รายบุคคล มาโหวตให้หรือไม่ และจะมีการพูดคุยหรือไม่ นพ.ชลน่าน ตอบว่า เราแสวงหาความร่วมมือจากทุกพรรค ทุกฝ่าย รวมถึงตัวบุคคล เพราะการโหวตเลือกนายกฯ เป็นเอกสิทธิ์ที่ทุกคนตัดสินใจได้ ส่วนการร่วมรัฐบาลได้ดำเนินการตามที่แถลงการณ์ไปแล้ว ซึ่งขณะนี้พรรคที่ยกขึ้นมากล่าวอ้างยังไม่มีการพูดคุย
ส่วนพรรคก้าวไกลมีความชัดเจน พรรคเพื่อไทยมีข้อจำกัดอย่างมากในการร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ซึ่งก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุนพรรคก้าวไกลไปแล้ว 2 ครั้ง ก็ไม่ได้รับความเห็นชอบ
และเมื่อพรรคก้าวไกลมอบภารกิจมาให้ พรรคเพื่อไทยก็พยายามแสวงหาเสียงสนับสนุนให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็เคารพเอกสิทธิ์ของพรรคก้าวไกลว่าจะมาสนับสนุนเลือกนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ปรารถนาจากทุกพรรคทุกส่วน
ภูมิธรรม เวชชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
ภูมิธรรม เวชชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
นายภูมิธรรม ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า เอาวาระประเทศ วาระประชาชน เป็นที่ตั้ง ขณะนี้เริ่มกระบวนการดึงและเจรจาพูดคุยกับพรรคต่างๆ บ่ายนี้จะหารือพรรคก้าวไกล พรุ่งนี้จะหารือกับพรรคชาติไทยพัฒนาและอีกหลายพรรค จะค่อยๆ ดำเนินการ ยืนยันว่า มีความชอบธรรม เสียงเราเกินกึ่งหนึ่งแล้ว ปัญหาของเราขณะนี้คือ พยายามจะให้ทุกพรรค ทุกฝ่าย ทุกกลุ่ม ทุกคนมีการเข้าร่วม ตามที่ผมได้เรียนไปแล้วว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลพิเศษ ท่ามกลางการมีวิกฤต 3 ด้าน คือ วิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตปากท้อง วิกฤตความขัดแย้ง เราต้องการให้รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ หลังจากที่เราขัดแย้งเป็นกลุ่ม แบ่งฝักฝ่ายมาเป็นเวลากว่า 20 ปี
ฉะนั้นวันนี้ ถ้าเป็นบุคคล ก็เป็นคำร้องขอจากเรา ไม่ใช้กระบวนการหรืองูเห่าอะไรทั้งสิ้น ถ้าเป็นพรรคหรือกลุ่มบุคคลก็ไม่ได้ไปทำลายกระบวนการอะไรที่เคยมีมา สิ่งที่ต้องการต้องคิดจากกระบวนทัศน์ใหม่ ไม่งั้นฝ่าวิกฤตไม่ได้
นายภูมิธรรมยังกล่าวว่า ที่คุยทั้งหมดไม่ใช่เพียง สส.แต่รวมถึง สว.ด้วย เพื่อรวมให้ได้ 375 เสียง เพื่อสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตามกติกา และเดินหน้าแก้ไขปัญหาประเทศชาติ และทุกพรรคที่มาร่วมแถลงยืนเอาวาระประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งหากเดินหน้าเลือกนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลได้ก็จะนำนโยบายของทุกพรรคมาพูดคุยกัน แม้ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้านหากเป็นนโยบายที่ดีก็พร้อมจะนำนโยบายมาทำและผลักดัน
สิ่งที่ต้องการขณะนี้ ความสนับสนุนให้เป็นแกนนำและนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เราเชื่อว่าวิกฤตของประเทศครั้งนี้ เป็นเรื่องใหญ่มากต้องการความร่วมมือและสนับสนุนจากทุกพรรคทุกฝ่าย เรื่องที่บาดหมางใจกัน เรื่องที่มีความขัดแย้งกัน ถ้าคิดถึงเรื่องใหญ่ของประเทศเหล่านั้นเรื่องเล็กน้อย ผ่านพ้นไปได้ อะไรที่พรรคเพื่อไทยหรือพรรคร่วมต่าง ๆ ได้กระทบกระทั่งต่อกัน หรือ ที่มีความรู้สึกไม่สบายใจต่อกัน ผมว่าเป็นเรื่องเล็ก สำหรับพรรคเพื่อไทยยินดีที่จะขอโทษ กับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นถ้ามันเป็นเรื่องที่มีปัญหา เหนือสิ่งอื่นใด เราอยากได้ความร่วมมือเพื่อให้ประเทศพ้นวิกฤต
เพื่อไทย จับมือ 6 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล (9 ส.ค.2566)
เพื่อไทย จับมือ 6 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล (9 ส.ค.2566)
นพ.ชลน่าน ยังตอบคำถามกรณีที่มีการระบุว่า สส.พรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว ว่า ในฐานะหัวหน้าพรรค มีการประชุมพรรคเมื่อวานนี้ (8 ส.ค.) เพื่อให้ สส.ได้พูดคุย เปิดใจกันอย่างเต็มที่ โดยรับฟังเสียงทั้งบวกและลบ ซึ่งเท่าที่รับฟังไม่มี สส.คนใดแสดงแนวคิดที่ไม่เห็นด้วยถึงขั้นย้ายออกไปจากพรรค มีเพียงข้อห่วงใยในประเด็นทั่วๆ ที่ใช้เป็นแนวทางในการจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น
นพ.ชลน่าน ยังตอบคำถามสื่อมวลชนว่ายังเสนอนายเศรษฐา เป็นแคนดิเดตนายกฯให้รัฐสภาฯ ลงมติหรือไม่ว่า แคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทยยังเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ที่จะเสนอชื่อให้รัฐสภาพิจารณาและมั่นใจว่าจะผ่านการลงมติ
นายภูมิธรรม กล่าวเสริมว่า กรณีนายเศรษฐา ตรวจสอบกระบวนการทางกฎหมายแล้ว ผ่านกระบวนการคัดสรรแล้ว ไม่มีปัญหาทางกฎหมาย และไม่มีปัญหาด้านจริยธรรม ขณะที่พรรคก้าวไกล จุดยืนสุดท้ายที่ได้ตกลงกัน คือ พรรคเพื่อไทยจะเป็นรัฐบาลและพรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้าน อะไรก็ตามที่เกิดประโยชน์จะร่วมกันทำงาน ยืนยันไม่สนับสนุนการแก้ไข มาตรา 112
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
“ภูมิธรรม” พร้อมขอโทษ “ก้าวไกล” ขอคุยช่วยโหวตนายกฯ
“เชาวฤทธิ์” ยืนยัน “พลังสังคมใหม่” ตอบรับ “พท.-ภท.” ตั้งรัฐบาล