ที่มาของภาพ, OceanGate Expeditions
เรือดำน้ำขนาดเล็กที่สูญหาย
หน่วยยามชายฝั่งสหรัฐฯ ยืนยันว่า ผู้โดยสารทั้ง 5 คนในเรือดำน้ำไททัน ที่ลงไปสำรวจซากเรือไททานิค แต่สูญหายไปตั้งแต่วันอาทิตย์ ได้เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว
พลตรี จอห์น เมาเกอร์ ของหน่วยยามชายฝั่งยืนยันว่า พบเศษชิ้นส่วนของเรือดำน้ำขนาดเล็ก "ไททัน" จำนวน 5 ชิ้น ห่างจากบริเวณหัวเรือไททานิคราว 1,600 ฟุต
ด้าน เจมส์ คาเมรอน ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง "ไททานิค" (1997) ที่ดำลงไปสำรวจซากเรือไททานิคมาแล้ว 33 ครั้ง บอกกับบีบีซีว่า เขาคาดการณ์ไว้แล้วว่า สถานการณ์จะจบลงเช่นนี้
"ผมรู้สึกเลยว่าเกิดอะไรขึ้น ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของเรือดำน้ำล้มเหลว ระบบสื่อสารล้มเหลว ระบบตรวจจับสัญญาณล้มเหลวพร้อม ๆ กัน แล้วเรือดำน้ำก็หายไป" เจมส์ คาเมรอน กล่าว
ท่ามกลางสถานการร์ที่มีการรายงานถึงเสียงเคาะดัง และออกซิเจนที่กำลังหมดลงเรื่อย แต่สำหรับเขารู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
End of เรื่องแนะนำ
"ผมทราบดีว่า เรือดำน้ำนอนจมอยู่ตรงจุดที่ตั้งและความลึกที่ติดต่อได้ครั้งท้ายสุด ซึ่งเป็นจุดที่มีการพบเรือดำน้ำนั่นเอง" เขากล่าวต่อ
กองทัพเรือสหรัฐฯ ยังระบุอีกว่า ได้ตรวจพบ "เสียงจากการถูกบีบอัดอย่างรุนแรงเฉียบพลัน" เพียงไม่นานหลังเรือดำน้ำไททันสูญหายไป หลังลงไปใต้ทะเล 1 ชั่วโมง 45 นาที ซึ่งข้อมูลนี้ได้ส่งต่อให้ยามชายฝั่งสหรัฐฯ เพื่อใช้ตีวงการค้นหาให้แคบลงมานานแล้ว
ซีบีเอส รายงานว่า เสียงเคาะดังที่มีการรายงานนั้น เชื่อว่าเป็นเสียงจากเรือลำอื่นในพื้นที่
ด้าน เจมส์ คาเมรอน กล่าวกับบีบีซีว่า หากมีการใช้ยานสำรวจใต้น้ำแบบบังคับทางไกลที่ถูกส่งลงไปใต้ทะเลเมื่อวันพฤหัสบดี (22 มิ.ย.) ได้พบ เศษชิ้นส่วนเรือดำน้ำ "ภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่กี่นาทีด้วยซ้ำ"
ปฏิบัติการค้นหาเรือดำน้ำเที่ยวชมซากไททานิคที่สูญหาย เริ่มต้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ในการค้นหาวันที่ 4 (21 มิ.ย.) ยามชายฝั่งสหรัฐฯ คาดการณ์ว่าปริมาณอากาศสำรองของเรือดำน้ำไททัน สำหรับผู้โดยสาร 5 คน จะหมดลงในช่วงหลัง 18.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย แต่หน่วยงานกู้ภัยยังมีความหวังว่าจะพบเรือดำน้ำพาเที่ยวชมซากเรือไททานิค
"เรายังไม่ทราบว่าพวกเขาอยู่ตรงไหน" หัวหน้าทีมค้นหา ระบุ ตามรายงานของบีบีซีเมื่อช่วง 12.00 น. ที่ผ่านมา
ปฏิบัติการวานนี้ (22 มิ.ย.) ได้มีการส่งเรือและเรือดำน้ำไร้คนขับเพิ่มเติมจำนวน 10 ลำ ร่วมค้นหา โดยที่เรือโพลาร์ พรินส์ เรือหลักเหนือผิวน้ำของเรือไททันของบริษัทโอเชียนเกต ซึ่งอยู่ในพิกัดเหนือซากเรือไททานิค ยังคงเป็นศูนย์บัญชาการการค้นหาหลัก
นอกจากนี้ ยังเสริมการค้นหาใต้น้ำด้วยยานใต้น้ำแบบอาร์โอวี (ROV) ตลอดทั้งวัน รวมพื้นที่การค้นหาทั้งทางน้ำ ทางอากาศ กว่า 25,900 ตารางกิโลเมตร
การค้นหาบริเวณพื้นผิวน้ำทะเลได้ขยายเพิ่มเติมจนกินพื้นที่ขนาดใหญ่กว่ารัฐคอนเนคติกัตของสหรัฐฯ 2 เท่า ส่วนการค้นหาใต้น้ำ ขณะนี้ได้ค้นหาลงไปใต้ทะเลในความลึกถึง 4 กิโลเมตร โดยการค้นหาบนพื้นผิวทะเลได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากเครื่องบินของกองทัพอากาศแคนาดา
ในส่วนของอากาศสำหรับการดำรงชีพของผู้โดยสาร 5 คน ซึ่งเป็นการประเมินจากศักยภาพของเรือดำน้ำไททันนั้น จนถึงช่วงเช้าวันที่ 22 มิ.ย. เชื่อว่าขณะนี้เหลืออยู่ไม่ถึง 20 ชม. อย่างไรก็ตาม กัปตัน บ็อบบี โชลเลย์ อดีตนักดำน้ำของทัพเรือของสหรัฐฯ ระบุกับบีบีซีนิวส์ไนท์ เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ระยะเวลาในการกู้ภัย ไม่ถูกกำหนดแบบตายตัว ตามตัวเลขของออกซิเจนสำรองในเรือไททันอย่างที่หลาย ๆ ฝ่ายมุ่งประเด็น
"ทุก ๆ คนต่างจดจ่อไปที่อากาศสำรองเพื่อการดำรงชีพ 96 ชั่วโมงของไททัน แต่มันไม่ใช่ตัวเลขที่กำหนดไว้ตายตัวขนาดนั้น และผมรู้ว่าทีมค้นหาก็ไม่ได้โฟกัสที่ตัวเลขนี้ว่าเป็นตัวเลขที่ตายตัวเช่นกัน" กัปตัน บ็อบบีระบุ
ขณะเดียวกันมีความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องเสียงดังจากใต้ทะเล โดยกัปตันเดวิด มาเคว็ต อดีตผู้บัญชาการเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ออกมาเตือนว่า ความหวังจากการตรวจพบเสียงดังใต้ทะเลในช่วงไม่กี่ช่วงโมงที่ผ่านมา อาจจะไม่ได้มาจากเรือดำน้ำไททัน
"ผมไม่คิดว่าเสียงจะมาจากเรือดำน้ำพวกเขา มันอาจเป็นเสียงของธรรมชาติทั่วไป พวกเราได้ยินเสียงเหล่านี้และเรืออื่น ๆ ที่เข้ามาในพื้นที่ค้นหา หลังจากนั้นเราก็ได้ยินเสียงมากขึ้น และผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ" เขาระบุกับบีบีซี
กัปตันมาเคว็ตเชื่อว่า โอกาสรอดชีวิตสำหรับผู้ที่อยู่บนเรือนั้นต่ำ แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยแล้วขณะนี้ เนื่องจากกำลังมีการส่งอุปกรณ์ที่จะยกเรือดำน้ำไททันขึ้นมาไปยังพื้นที่ค้นหา
ด้าน เดวิด โพกิว ผู้สื่อข่าวสถานีข่าวซีบีเอส ที่ได้โดยสารเรือดำน้ำลำนี้เมื่อปีที่แล้ว ระบุว่า แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้โดยสารเรือดำน้ำ จะรอดออกมาเองได้ หากไม่ได้รับการช่วยเหลือ
"ไม่มีแผนสำรอง ไม่มีกระสวยฉุกเฉิน… หากเรือขึ้นสู่ผิวน้ำไม่ได้ ก็ตาย"
ตอนนี้ กองทัพเรือสหรัฐฯ และแคนาดา กำลังใช้เครื่องบิน เรือดำน้ำ และทุ่นโซนาร์ เพื่อทำการค้นหาแบบกวาดลาน ใจกลางมหาสมุทรแอตแลนติก และล่าสุด ได้ใช้ยานบังคับทางไกล ลงไปค้นหาใต้ทะเลลึก ในจุดที่คาดว่าเรือดำน้ำสูญหายแล้ว
เรือดำน้ำที่สูญหาย เป็นของบริษัท โอเชียนเกต เอ็กส์เพดิชันส์ (OceanGate Expeditions) บริษัทเอกชนที่จัดบริการนำเที่ยวใต้ทะเลลึก เพื่อชมซากเรือไททานิค ที่ความลึกใต้ทะเล 3,800 เมตร
ทางบริษัทออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เป็นเจ้าของเรือดำน้ำลำนี้ และมีคนอยู่บนเรือดำน้ำจริง
“เรากำลังเสาะหาหนทาง และใช้ทุกวิถีทางเพื่อพาลูกเรือกลับมาอย่างปลอดภัย” แถลงการณ์ระบุ “เรามุ่งความสนใจไปที่ลูกเรือของเรือดำน้ำลำนี้ และครอบครัวของพวกเขาเป็นลำดับแรก”
“เรากำลังทำงานเพื่อพาลูกเรือกลับมาอย่างปลอดภัย” ทางบริษัทเสริม
ที่มาของภาพ, Reuters
ซากเรือไททานิคจมอยู่ใต้ทะเลลึก 3,800 เมตรในมหาสมุทรแอตแลนติก
บริษัท โอเชียนเกต เอ็กส์เพดิชันส์ คิดค่าใช้จ่ายสำหรับทริป 8 วันเพื่อชมซากเรือไททานิค คนละ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 8.7 ล้านบาท
ทางบริษัทโฆษณาสรรพคุณของเรือดำน้ำว่า เป็นเรือดำน้ำที่สร้างจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ “เป็นโอกาสให้ได้ก้าวออกจากชีวิตทั่วไป และค้นพบสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ”
ข้อมูลบนเว็บไซต์ของทางบริษัท ระบุว่า กำลังดำเนินทริปดังกล่าวทริปหนึ่งอยู่ในตอนนี้ และมีแผนจะให้บริการทริปแบบเดียวกันในเดือน มิ.ย. 2024
ที่มาของภาพ, Dawood Family
สุเลมาน และชาห์ซาดา ดาวุด ที่สูญหายไปกับเรือดำน้ำ
วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ มาร์ค เคลลี อดีตนักบินอวกาศนาซา และกัปตันเรือกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า ปฏิบัติการค้นหา ต้องดำเนินอย่างระมัดระวัง เพราะ "สภาพแวดล้อมสุ่มเสี่ยงมาก"
"เรือดำน้ำแบบนั้น มีระบบคล้ายกับยานอวกาศ คุณต้องพยายามรีดหาออกซิเจน เพื่อให้หายใจได้" และ "นี่เป็นปฏิบัติการที่ท้าทาย ที่คาดเดาผลลัพธ์ไม่ได้เลย"
เรือดำน้ำขนาดเล็กนี้ มีชื่อว่า “ไททัน” สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 5 คน ตามข้อมูลของทางบริษัท ปกติแล้ว ผู้โดยสารจะประกอบด้วย ผู้บังคับเรือดำน้ำ 1 คน แขก 3 คน และบุคคลที่ทางบริษัทเรียกว่า “ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล”
เรือดำน้ำจะใช้เวลาดำลงใต้น้ำ ชมซากเรือไททานิค แล้วขึ้นสู่ผิวน้ำ รวมใช้เวลา 8 ชั่วโมง
เรือดำน้ำมีน้ำหนัก 10,432 กิโลกรัม สามารถดำลงใต้ทะเลลึกสุด 13,100 ฟุต และมีอากาศสำหรับการดำรงชีพของผู้โดยสาร 5 คน นาน 96 ชั่วโมง
จุดที่ดำลงไปนั้น จะอยู่ใต้ทะเลลึก 3,800 เมตร ดำดิ่งลึกถึงพื้นมหาสมุทรแอตแลนติก ห่างจากชายฝั่งรัฐนิวฟันด์แลนด์ของแคนาดา ราว 600 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่เรือไททานิคล่ม และจมลงสู่ใต้ทะเล
เรือโดยสารสุดหรูที่ชื่อ ไททานิค ถือเป็นเรือโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ณ เวลานั้น ได้ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งในปี 1912 ในเวลานั้นมีผู้โดยสารและลูกเรือทั้งสิ้น 2,200 คน ในจำนวนนี้เสียชีวิตมากกว่า 1,500 คน
นับแต่มีการค้นพบซากเรือไททานิคในปี 1985 ก็มีการสำรวจซากเรืออย่างกว้างขวาง
ซากเรือไททานิคนั้นแตกออกเป็นสองส่วน คือ กราบขวาของเรือ และส่วนท้ายเรือ ซึ่งจมห่างจากกัน 800 เมตร โดยมีเศษชิ้นส่วนเรือขนาดใหญ่กระจายอยู่โดยรอบ
เมื่อเดือนที่แล้ว ได้มีการเปิดเผยภาพจำลองซากเรือไททานิคแบบ 3 มิติ ที่ประกอบจากภาพถ่ายความคมชัดสูงกว่า 700,000 ภาพ ซึ่งอาจเป็นตัวช่วยทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์ รวมถึงคนทั่วโลกเข้าใจได้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้เรือไททานิคล่มในปี 1912
© 2023 บีบีซี. บีบีซีไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อเนื้อหาของเว็บไซต์ภายนอก. นโยบายของเราเรื่องการเชื่อมต่อไปยังลิงก์ภายนอก. อ่านเกี่ยวกับแนวทางของเราในการติดต่อกับลิงก์ภายนอก
Related Stories
ตุลาคม 24, 2024