แต่เป็นเพลงที่ใช้ใน “วันขอบคุณพระเจ้า” แต่งโดย James Lord Piermont ในปี 1857 ใช้ร้องในโบสถ์เทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพลงดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับคริสต์มาสมากขึ้น และปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในเพลงวันหยุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.1965 เพลงคริสต์มาสคลาสสิก “Jingle Bells” ถูกเปิดกลางอวกาศในยานอวกาศ Gemini 6A ของ NASA ตามบันทึกของ Guinness World Records ระบุว่าเป็นเพลงแรกของโลกที่ถูกเปิดในอวกาศ
Jingle Bells ไม่ใช่เพลงประจำเทศกาลคริสต์มาส
Jingle Bells ไม่ใช่เพลงประจำเทศกาลคริสต์มาส
แต่เดิมนั้น ลุงซานต้า ใช้กวางเรนเดียร์ 8 ตัวในการลากล้อเลื่อน แต่ในคืนวันคริสต์มาสที่มีพายุหิมะโหมกระหน่ำ ทำให้ซานตาคลอสไม่สามารถมองเห็นทางได้ ในขณะนั้น ซานตาคลอสได้เห็น แสงสีแดงสดใส ซึ่งรู้ภายหลังว่าเป็นแสงสีแดงจากจมูกสีแดงของกวางเรนเดียร์ “รูดอล์ฟ” กวางที่ถูกบูลลีจากกวางตัวอื่นที่มีจมูกที่แปลกประหลาด ลุงซานต้าผู้ใจดี จึงขอให้ รูดอร์ฟ ช่วยเป็นกวางนำทางในขบวนรถลาก เพื่อส่องแสงนำทางไปแจกของขวัญให้เด็กๆ จนสำเร็จก่อนถึงเช้าวันคริสต์มาส และให้รูดอล์ฟอยู่ในแถวหน้าสุดอีกด้วย!
รูดอล์ฟมีเพลงประจำตัวด้วยนะชื่อ “Rudolph the Red-Nosed Reindeer”
รูดอล์ฟ เรนเดียร์จมูกแดง
รูดอล์ฟ เรนเดียร์จมูกแดง
เชื่อกันว่าประเพณีนี้เกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ในยุโรป จากตำนานพื้นบ้าน นักบุญนิโคลัส ได้ใส่เหรียญทองไว้ในถุงเท้าของหญิงสาวที่น่าสงสารทั้ง 3 คน เมื่อเวลาผ่านไป ตำนานได้พัฒนาไปสู่กิจกรรมในคืนคริสต์มาสอีฟ เด็กๆ จะแขวนถุงเท้าไว้ข้างเตาผิง หรือ ปลายเตียง เพื่อรอคอยของขวัญเมื่อตื่นเช้าในวันคริสต์มาส
ถุงเท้าคริสต์มาส เริ่มต้นอย่างไร?
ถุงเท้าคริสต์มาส เริ่มต้นอย่างไร?
เมื่อไฟที่ประดับต้นคริสต์มาสที่ Rockefeller Center มหานครนิวยอร์กสว่างขึ้น นั่นคือสัญลักษณ์ของวันหยุดที่ได้เริ่มต้นแล้ว อันที่จริงต้นสนที่ถูกนำมาใช้ เริ่มจากคนงานของ Rockefeller Center ได้รวบรวมเงินเพื่อซื้อต้นสนขนาด 20 ฟุต และช่วยกันตกแต่งด้วยพวงดอกไม้ เพื่อเฉลิมฉลองช่วงวันหยุด จากนั้นก็ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาทุกปีในช่วงเดือน ธ.ค. ที่จะมีการย้ายต้นสนขนาดใหญ่เพื่อใช้เป็นต้นคริสต์มาสที่ประดับประดาด้วยไฟหลายหมื่นดวง
ต้นคริสต์มาส Rockefeller Center สัญลักษณ์ของวันหยุด
ต้นคริสต์มาส Rockefeller Center สัญลักษณ์ของวันหยุด
ปี 2023 นี้ สามารถชื่นชมความสว่างไสวของต้นคริสต์มาสที่ Rockefeller Center ได้ตั้งแต่ 29 พ.ย.2023-13 ม.ค.2024 ยาวๆ ข้ามปีได้เลย!
ต้นคริสต์มาส Rockefeller Center สัญลักษณ์ของวันหยุด
ต้นคริสต์มาส Rockefeller Center สัญลักษณ์ของวันหยุด
คนอังกฤษมีธรรมเนียมการรับประทานไก่งวงในเทศกาลคริสต์มาส มาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 16 โดยพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ทรงเป็นกษัตริย์อังกฤษพระองค์แรกที่เสวยไก่งวง ในวันสำคัญของชาวคริสต์นี้ ทำให้นับแต่นั้นเป็นต้นมา “ไก่งวงอบ” จึงกลายเป็นพระเอกบนโต๊ะอาหารค่ำวันคริสต์มาสสำหรับชาวอังกฤษทั่วไป โดยเมนูคริสต์มาสแบบดั้งเดิมของคนอังกฤษ จะประกอบไปด้วย ไก่งวงอบ กะหล่ำดาว มันฝรั่งอบ และไส้กรอกพันด้วยเบคอนที่เรียกว่า “หมูห่มผ้า”
ไก่งวงบนโต๊ะอาหารค่ำคืนคริสต์มาสอีฟ
ไก่งวงบนโต๊ะอาหารค่ำคืนคริสต์มาสอีฟ
มีธรรมเนียมของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกในบางภูมิภาค ถือว่าอาหารค่ำวันคริสต์มาสอีฟเป็นอาหารมื้อใหญ่มื้อสุดท้ายก่อนถึงวันคริสต์มาส หรือช่วงถือศีลอด “ซึ่งห้ามทานเนื้อสัตว์ใหญ่” ชาวคริสต์ในแถบยุโรปตะวันออก จึงนิยมรับประทาน “ปลาไน” ซึ่งเป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งในวงศ์ปลาตะเพียน เป็นปลาที่หาง่าย และมีรสชาติเหมือนปลาค็อดแทน และยังแพร่กระจายไปถึง อิตาลี และ โปรตุเกส อีกด้วย ที่บนโต๊ะอาหารวันคริสต์มาสอีฟมักเสิร์ฟอาหารจากปลาชนิดต่างๆ มากถึง 7 เมนู
ที่อังกฤษกินไก่งวงอบ ที่ยุโรปกินปลา แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นนิยมกินไก่ทอด “KFC” โดยชาวอาทิตย์อุทัยมักพาครอบครัวไปฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่ร้านไก่ทอดเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เพราะร้านไก่ทอดนี้เข้ามาเปิดตัวในญี่ปุ่นช่วงเทศกาลคริสต์มาส ในปี 1974 ขณะที่ ในฟิลิปปินส์ ผู้คนนิยมทานหมูหันในช่วงคริสต์มาส ชาวโคลอมเบียทานชีสทอดที่ปั้นเป็นลูกกลมๆ ส่วนชาวฮอนดูรัส และนิการากัว มีเมนูเด็ดช่วงคริสต์มาสที่เรียกว่า Nacatamal ซึ่งมีลักษณะคล้ายบ๊ะจ่างของจีน แต่ทำจากแป้งข้าวโพด ข้าว เนื้อสัตว์ และผักต่างๆ
เมนูคริสต์มาสจากทั่วโลก
เมนูคริสต์มาสจากทั่วโลก
ข้อมูลจากของ Exeter Santa Survey ประจำปี 2018 ผลสำรวจพบว่า อายุเฉลี่ยที่เด็กๆ เลิกเชื่อตำนานซานตาคลอส-วันคริสต์มาส คือ 8 ปี ซึ่งมีมากถึงร้อยละ 85 เมื่อโตขึ้น เด็กบางคนจะเริ่มปะติดปะต่อความจริงด้วยตนเอง โดยผู้ที่มีส่วนร่วมที่ทำให้เด็กๆ เลิกเชื่อตำนานแห่งความสุขคือ “พ่อแม่” ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนหนึ่งระบุว่า ช่วงอายุ 10 ปี พวกเขาจับได้ว่าพ่อแม่ของพวกเขาดื่มนมและกินคุ้กกี้ที่เตรียมไว้สำหรับซานต้าและกวางเรนเดียร์ ขณะที่เด็กอายุ 11 ปี ถูกปลุกให้ตื่นเพราะพ่อที่เมามายเผลอทำของขวัญหล่น เสียงดังจนทำให้ตื่น
8 ขวบเลิกเชื่อเรื่องซานต้าแล้ว
8 ขวบเลิกเชื่อเรื่องซานต้าแล้ว
นมและคุ้กกี้ คืออาหารที่เด็กๆ เตรียมให้ซานตาคลอส เริ่มจากช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ แต่พ่อแม่ก็พยายามสนับสนุนให้เด็กๆ รักษาจิตวิญญาณแห่งการกุศล มีน้ำใจให้คงอยู่ท่ามกลางความยากลำบากทางการเงิน
ใครที่คิดมาตลอดว่าตัวย่อของ Christmas คือ “Xmas หรือ X’mas” นั้น ต้องบอกว่าเป็นเรื่องผิดแบบ 100% แท้ที่จริงแล้วคำว่า Xmas มาก่อน Christmas ด้วยซ้ำ ตัว X ในภาษากรีกโบราณแทนตัวอักษรภาษาอังกฤษคือ Chi หรือ “ไค” ซึ่งเป็นตัวอักษรตัวแรกของคำในภาษากรีก Χριστός ซึ่งมีความหมายว่า “คริสต์” ส่วน “mas” มาจากภาษละติน “missa” ที่แปลว่าการส่งออกไป
แต่การใช้ Xmas มักใช้เชิงที่ไม่เป็นทางการ เขียนในการ์ด หรือเขียนในกระดาษ เพราะส่วนใหญ่แล้ว เจ้าของภาษานั้นๆ มักบอกว่าเป็นการใช้คำที่ไม่ถูกต้องตามหลักภาษาศาสตร์ของภาษาตนเอง The Cambridge Guide to Australian English Usage กล่าวว่า “Xmas” ควรถูกพิจารณาว่าเป็นการสะกดแบบไม่เป็นทางการ และควรสงวนไว้สำหรับบริบทที่ต้องการความสั้นกระชับ เช่น ในพาดหัวข่าวและในบัตรอวยพรเท่านั้น
Xmas ไม่ใช่ตัวย่อของ Christmas
Xmas ไม่ใช่ตัวย่อของ Christmas
ตัวจริงของซานตาคลอสเป็นบุคคลที่สร้างขึ้นมาจากจินตนาการของชาวคริสต์มีแรงบันดาลใจมาจาก “นักบุญนิโคลัส” ซึ่งเป็นบาทหลวงในไมรา (ตุรกีในปัจจุบัน) มีชีวิตช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 4 ผู้ขึ้นชื่อในเรื่องความใจดี โดยเฉพาะกับเด็กๆ ต่อมาท่านเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วฮอลแลนด์ในชื่อ “ซินเตอร์คลาส” ราว ค.ศ.1870 ชาวอเมริกันเรียกชื่อเพี้ยนไปเป็น “ซานตาคลอส” ชายแก่รูปร่างอ้วนและดูใจดี เขามักใส่เสื้อโค้ทที่ทำจากขนสัตว์สีแดงสด มีขลิบสีขาว ที่เอวคาดเข็มขัดหนังและรองเท้าบูทสีดำ
ใครคือซานตาคลอส?
ใครคือซานตาคลอส?
ซานตาคลอส จะอาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ โดยมีเอลฟ์ ซึ่งเป็นมนุษย์ตัวเล็กที่ช่วยผลิตของเล่นให้เขานำไปแจกเด็กที่เป็นเด็กดี ในคืนวันคริสต์มาส ซานตาคลอสมีพาหนะเป็นเลื่อนหิมะ ที่ลากโดยกวางเรนเดียร์ซึ่งสามารถบินได้ ในกลางดึกวันคริสต์มาส ซานตาคลอสจะแอบเข้าไปในบ้านที่มีเด็กดีทางปล่องไฟ เพื่อนำของขวัญไปใส่ในถุงเท้าที่แขวนรอไว้หน้าเตาผิง
Merry Christmas and Happy Holidays Ho Ho Ho!