วันนี้ (22 ธ.ค.2566) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจกองกำกับการสนับสนุน กองบังคับการปราบปราม และหน่วยหนุมาน นำหมายค้น 8 หมาย และหมายจับ 3 หมายจากศาลอาญา บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักอดีตข้าราชการทหารเรือยศ “พลเรือตรี” ในพื้นที่เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร หลังพบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีชาวไต้หวันจ้างวานฆ่าลูกชายของตัวเอง
ซึ่งขณะที่เจ้าหน้าที่มาถึงเป้าหมายได้นำกำลังพร้อมอาวุธครบมือ ตรึงกำลังอยู่บริเวณหน้าบ้านพัก พร้อมตะโกนบอกให้เจ้าของบ้านเอาลงมาเปิดประตูเพื่อแสดงตัวตน ก่อนที่เจ้าของบ้านจะออกจากบ้านพักมาเปิดประตูเพื่อแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่จึงอ่านหมายศาลพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบ ก่อนนำเจ้าหน้าที่เข้าไปค้นภายในบ้านพัก
ส่วนอีกเป้าหมายที่มีการเข้าตรวจค้น คือบ้านพักของอดีตนาวาเอกนอกราชการ และอดีตครูฝึกหน่วยนาวิกโยธิน ในพื้นที่เขตทวีวัฒนากรุงเทพมหานคร จากการบุกเข้าตรวจค้นพบเป้าหมายตามหมายจับแสดงตัวก่อนนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบ้านพัก ทั้งสองคนที่กล่าวมาข้างต้นถูกแจ้งข้อหาเดียวกัน
และมีรายงานว่าเป้าหมายสำคัญคือชาวไต้หวันที่มีสัญชาติไทย ซึ่งเป็นบุคคลที่จ้างวานฆ่าลูกชายของตัวเอง ถูกจับได้ในบ้านพักย่านสมุทรปราการ
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยว่า คดีนี้มูลเหตุจูงใจที่นักธุรกิจชาวไต้หวันจ้างวานฆ่าภรรยาและลูกของตนเอง คาดว่ามาจากความขัดแย้งเรื่องธุรกิจในบริษัท โดยนักธุรกิจไต้หวันที่เป็นตัวการได้ติดต่อขอให้ “พลเรือตรี” ที่รู้จักกัน ให้จัดหาทีมสังหารให้ “พลเรือตรี” จึงได้ติดต่ออดีตครูฝึกนาวิกโยธินอีกทอด เพื่อให้จัดหาทีมมือปืน ซึ่งตำรวจจับกุมได้ครบทั้ง 3 คน เพราะผู้ต้องหาเข้าใจว่าสามารถสังหารเหยื่อได้สำเร็จ ทำให้เกิดความตายใจ ทั้งที่เหยื่อทั้งสองคนยังปลอดภัย
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม
อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้ง 3 คนยังคงให้การปฏิเสธ แต่พฤติการณ์กระทำความผิดสำเร็จแล้ว เพราะกรณีการจ้างวานฆ่า แม้มือปืนจะยังไม่ทันได้ก่อเหตุ แต่ถือว่าผู้ว่าจ้างได้มีการว่าจ้างให้กระทำผิดเรียบร้อยแล้ว และตามกฎหมายต้องรับโทษ 1 ใน 3 หากมือปืนยังไม่ได้ลงมือ
สำหรับการปฏิบัติการในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากผู้เสียหายชาวไต้หวัน มาแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม ว่าถูกขู่ฆ่าเจ้าหน้าที่จึงขยายผล จนทราบตัวคนบ่งการ ซึ่งเป็นพ่อแท้ ๆ ของผู้เสียหาย และกลุ่มคนรับงาน เป็นอดีตข้าราชการทหาร จึงรวบรวมหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับในความผิดฐานเป็นใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน บุคคลที่เกี่ยวข้อง 3 คน และเข้าค้นเป้าหมาย ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดทั้งหมด 8 จุด โดยในรายละเอียดการตรวจค้น และพฤติกรรมของในคดี ทางกองบังคับการปราบปรามจะแถลงรายละเอียดให้ทราบในช่วงบ่ายของวันนี้
อ่านข่าวอื่นๆ :
สถานทูตฯ เตือนคนไทยต่างแดนรับมือ “ขบวนการคอลเซนเตอร์”