วันนี้(19 ธ.ค. 2566) นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า หอการค้าไทยประเมินปัจจัยเศรษฐกิจที่มีผลสนับสนุนและบั่นทอน 10 ธุรกิจดาวรุ่งและดาวร่วงปี 2567 จากทิศทางเศรษฐกิจปี2567 ขยายตัวร้อยละ 3-3.5 และหากมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและความชัดเจนเรื่องดิจิทัล Wallet มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะโตได้ถึงร้อยละ 4 ขณะที่ในปี 2566 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 2.4-2.6
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกที่ยังต้องติดตาม เช่น เศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากจะมีการเลือกตั้ง ทำให้ต้องดูเรื่องการลดดอกเบี้ย มาตรการธนาคารกลางของญี่ปุ่น ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจโลก
และปัจจัยในเรื่องของการท่องเที่ยวที่จะเติบโตคาดว่าในปี 2567 นักท่องเที่ยวจะเข้ามา 34-37 ล้านคน จากปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยที่ 21-28 ล้านคนส่วนการส่งออกศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจคาดจะขยายตัวเป็นบวกร้อยละ 2-3 ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลในเรื่องของการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคมากขึ้น และจะเห็นเด่นชัดในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567
อ่านข่าว:
โอนแล้ว! ไร่ละ1,000 รอบ 2 กว่า 6 พันล้าน ยิงตรงเข้าบัญชีชาวนา
นายธนวรรธน์ กล่าวอีกว่า ธุรกิจความเชื่อ สายมู หมอดู ฮวงจุ้ย และธุรกิจ Soft Power ไทย จะเป็นธุรกิจที่มาแรงในปีหน้าด้วย โดยเฉพะธุรกิจสายมูที่คาดว่ามีเงินสะพัดในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง 10,000-15,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นร้อยละ 10-20 เพราะคนไทยยังมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ และปีหน้าเชื่อว่าคนไทยบูชาครุฑมากขึ้นเพราะถือว่าเป็นปีครุฑ
ในขณะที่ธุรกิจ Soft Power ไทย ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุน 11 อุตสาหกรรม 5 F ได้แก่ อาหาร (Food) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) การออกแบบแฟชั่นไทย (Fashion) ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (Fight) และ เทศกาลประเพณีไทย (Festival) น่าจะมีเงินสะพัดใน 5 กลุ่มนี้เป็นเป็นแสนล้านบาท เฉพาะเทศกาลปีใหม่ ก็น่าจะมีเงินสะพัด 10,000 ล้านบาท ศิลปะการต่อสู้ มวยไทย ต่างชาติที่ชื่นชอบศิลปะไทยเม็ดเงินน่าจะพันล้านบาท เป็นต้น
เทศกาลลอยกระทงไทย
เทศกาลลอยกระทงไทย
ด้านนายวชิร คูณทวีเทพ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายยุทธศาสตร์ และผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หอการค้าไทยได้ประเมินผล “10 ธุรกิจ ดาวรุ่ง-ดาวร่วง ปี 2567” พบว่า 10 ธุรกิจดาวรุ่งปี 2567 โดยปัจจัยสนับสนุนที่มีผลต่อธุรกิจดาวดาวร่วง คือ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ
ได้แก่ มาตรการฟรีวีซ่า โครงการดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาทช่วยหนุนการบริโภคภายในประเทศ และดึงดูดนักท่องเที่ยวการลงทุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่จะกลับมาฟื้นตัวตามการเร่งรัดการเบิกจ่ายในโครงการลงทุนของภาครัฐ ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่องโดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ในทิศทางที่เติบโตเพิ่มขึ้น การส่งออกกลับมาขยายตัว สอดคล้องกับแนวโน้มปริมาณการค้าโลกที่เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว
สำหรับปัจจัยบั่นทอนต่อธุรกิจในปีหน้า เช่น ความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์โลกในภูมิภาคต่าง ๆ เช่น การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส ได้ส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานให้ปรับตัวสูงขึ้น ความผันผวนของตลาดการเงินโลก จากการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดและประเทศผู้ค้าหลัก โดยเฉพาะประเทศสหรัฐและสหภาพยุโรป การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและการส่งออกของไทย ปัญหาภัยแล้งและปรากฏการณ์เอลนีโญ มีแนวโน้มรุนแรงสูงขึ้นกว่าที่คาดไว้ และจะทำให้รายได้เกษตรกรลดลง
อ่านข่าว:
สอบเพิ่ม 2.6 หมื่นแห่ง “ธุรกิจต้องสงสัย” พณ.พบ 9 จังหวัดเสี่ยงสูง
เครื่องนอนไทยรุ่ง พาณิชย์แนะใช้ FTA ลุยตลาดจีน-อาเซียน