ที่มาของภาพ, Thai News Pix
กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งใน กทม. เริ่มนับคะแนนการเลือกตั้งภายหลังปิดหีบเวลา 17.00 น. ของวันที่ 14 พ.ค.
คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ครบ 500 คน แบ่งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คน และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้แถลงมติของ กกต. ชุดใหญ่ โดยชี้แจงว่า เหตุที่ กกต. ประกาศรับรอง ส.ส. ครบ 400 เขตไปก่อน เพราะ “กระบวนการพิจารณาเรื่องสืบสวนอาจจะไม่แล้วเสร็จภายใน 60 วันนับจากวันเลือกตั้ง และต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่จะมีโอกาสมาแก้ต่าง และมีการอ้างพยานหลักฐานแต่ละสำนวนจำนวนมาก กรรมการจึงได้ประกาศผลไปก่อน”
เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า กกต. ยังมีอำนาจสืบสวนและไต่สวนตามมาตรา 138 ของพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ดังนั้นหากประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว แต่มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้สมัคร หรือผู้ใดทุจริตการเลือกตั้ง หรือรู้เห็นกับการกระทำของคนอื่น ให้ กกต. ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้น พร้อมเปิดเผยยอด ส.ส. ที่มีเรื่องร้องเรียนจำนวน 82 ราย
สัปดาห์ก่อน มีรายงานข่าวในสื่อหลายสำนักตรงกันว่า สำนักงาน กกต. เสนอให้ประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต 329 ราย และไม่ประกาศผล 71 ราย เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียนคัดค้าน และปรากฏเอกสารเผยแพร่ตามสื่อต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม กกต. ชุดใหญ่ได้ตัดสินใจปล่อย ส.ส.เขตเข้าสภาทุกคน โดยมาจาก 11 พรรคการเมือง
นอกจากนี้ กกต. ยังประกาศรายชื่อพรรคการเมืองและรายชื่อผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ซึ่งมีทั้งหมด 17 พรรค รวม 100 ราย ทั้งนี้ เลขาธิการ กกต. ได้เปิดเผยจำนวนคะแนนเสียงที่นำมาคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 31,522,698 คะแนน สัดส่วนคะแนนต่อ ส.ส. 1 คนคือ 375,226 คะแนน
End of เรื่องแนะนำ
สำนักงาน กกต. แจ้งให้เข้ารับหนังสือรับรองการเป็น ส.ส. ได้ที่สำนักงาน กกต. ตั้งแต่ 20-24 มิ.ย. ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. ขณะที่สำนักงานสภาผู้แทนราษฎรเปิดให้ว่าที่ ส.ส. ทั้ง 500 คน เข้ารายงานตัวได้ตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย. เป็นต้นไป ที่บริเวณชั้นบี 1 อาคารรัฐสภา
ภายหลัง กกต. ประกาศรับรอง ส.ส. อย่างเป็นทางการครบ 95% ของสมาชิกสภาทั้งหมด กฎหมายกำหนดให้มีการเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรกภายใน 15 วัน โดยคาดว่าภายใน 3 ก.ค. จะมีรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา จากนั้นก็จะมีการประชุมสภานัดแรก โดยวาระสำคัญ หนีไม่พ้น การเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุประหว่างพรรค ก.ก. ซึ่งเป็นพรรคอันดับหนึ่ง กับพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งเป็นพรรคอันดับสอง มี ส.ส. ห่างกัน 10 เสียง แม้แกนนำพรรค พท. บางส่วนออกมาระบุว่า ให้สิทธิพรรคอันดับหนึ่งดำเนินการก่อนก็ตาม
ในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 20 มิ.ย. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงปฏิทินในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ให้ที่ประชุมรับทราบ โดยประมาณการว่า ครม. ภายใต้การนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะหมดวาระปลายเดือน ก.ค. ถึงต้นเดือน ส.ค.
นายวิษณุให้สัมภาษณ์ว่า หาก ส.ส. ที่เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาฯ มีจำนวนมากพอ ไม่โหรงเหรง รัฐบาลก็จะนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ ประกอบรัฐพิธีเสด็จเปิดประชุมรัฐสภา และเมื่อโปรดเกล้าฯ วันใด และพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ) เรียกประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2566 ประกาศใช้ ก็จะเสด็จฯ ไปวันนั้น จากนั้นภายใน 10 ว้น จะมีการเลือกตั้งประธานสภาฯ และเมื่อเลือกประธานรัฐสภาแล้ว ก็จะใช้เวลา 2-3 วันในการโปรดเกล้าฯ ประธานสภา และเป็นอำนาจของประธานสภาฯ ว่าจะเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อใด ซึ่งไม่มีกรอบระยะเวลา ทั้งนี้คาดว่า รัฐบาลชุดปัจจุบันถึงจะหมดวาระปลายเดือน ก.ค. ถึงต้นเดือน ส.ค.
“มันเร็วกว่าที่เราคิด แต่ผมคงไปตอบอะไรไม่ได้ เดี๋ยวไปลงข่าวให้อึกทึกครึกโครม เพราะผูกกับวันเสด็จพระราชดำเนินเปิดประชุมสภา และโปรดเกล้าฯ ประธานสภาเมื่อใด และประธานสภาจะเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อไหร่ กี่รอบ กี่หน ซึ่งผูกโยงกันเยอะ” นายวิษณุกล่าว
ผลจากการรับรอง ส.ส. ทั้งสภา 500 คน รวมถึงนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล ซึ่งอยู่ระหว่างถูกตั้งคณะกรรมการสืบสวนไต่นวสความผิดคดีอาญา กรณีถือหุ้นไอทีวี ว่าเข้าข่ายกระทำฝ่าฝืนมาตรา มาตรา 151 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. หรือไม่ ทำให้เลขาธิการ กกต. ถูกผู้สื่อข่าวถามว่า ภายหลังการรับรองสมาชิกภาพ ส.ส. จะมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของนายพิธาหรือไม่
นายแสวงตอบว่า เรื่องนี้ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวนฯ ของสำนักงาน กกต. จึงยังไม่เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งต้องดูว่าข้อกฎหมายจะเปิดช่องให้ดำเนินการได้แค่ไหนอย่างไร ตอนนี้การพิจารณาสำนวนยังไม่แล้วเสร็จ
ส่วนกระบวนการจะต้องเร่งให้แล้วเสร็จก่อนโหวตนายกฯ กลางรัฐสภาหรือไม่นั้น เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า “เราไม่สนใจเรื่องการเมือง แต่เป็นเรื่องของกระบวนการการทำงาน ต้องได้ข้อเท็จจริงให้สิ้นกระแสความ ซึ่งจะต้องได้รับความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าจะมีความรวดเร็วก็เกิดขึ้นกับการทำงาน ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองแต่อย่างใด”
ที่มาของภาพ, STR/BBC Thai
นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงมติของ กกต. ชุดใหญ่
สำหรับยอด ส.ส. ของแต่ละพรรคที่ กกต. ประกาศรับรองแล้ว มีดังนี้
© 2023 บีบีซี. บีบีซีไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อเนื้อหาของเว็บไซต์ภายนอก. นโยบายของเราเรื่องการเชื่อมต่อไปยังลิงก์ภายนอก. อ่านเกี่ยวกับแนวทางของเราในการติดต่อกับลิงก์ภายนอก
Related Stories
ตุลาคม 24, 2024