ศุกร์, 14 เมษายน 2566
สภาพอากาศวันนี้
THAILAND 35.4°C/29.6°C
LINE : @THAIPOST
เปลว สีเงิน
ผักกาดหอม
กาแฟดำ
บันทึกหน้า 4
ศุกร์, 14 เมษายน 2566
เมื่อวานผมเขียนถึงความเห็นของเอกอัครราชทูตจีนประจำสหภาพยุโรป “ฟู่ ชง” (Fu Cong) ที่อธิบายเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียไว้อย่างน่าสนใจยิ่ง
ยังมีสาระที่น่าศึกษาจากแนวทางวิเคราะห์ของทูตจีนคนนี้ ว่าด้วยรายละเอียดของความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งกับมอสโกโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับสงครามยูเครน
สัปดาห์ก่อน ทูตจีนคนนี้นอกจากจะให้สัมภาษณ์ New York Times ของสหรัฐฯ แล้ว ก็ยังตอบคำถามของ Financial Times ของอังกฤษอย่างน่าสนใจด้วย
เป็นจังหวะที่ผู้นำสเปน, ฝรั่งเศส และอียูเรียงแถวกันมาเยือนผู้นำจีนอย่างคึกคัก
FT: ท่านทูตคิดว่าสงครามยูเครนเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างยุโรปและจีนหรือไม่อย่างไร?
Fu Cong: ก่อนอื่น ผมขออธิบายจุดยืนของเราเกี่ยวกับวิกฤตยูเครน
จุดยืนของเราคือคำเดียว “สันติภาพ”
นั่นเป็นเหตุผลที่เราบอกว่าสิ่งที่ต้องทำตอนนี้เร่งด่วนที่สุด คือหยุดการต่อสู้และช่วยชีวิต
เราเชื่อว่านั่นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำ เพราะเราเห็นทางทีวีทุกวันถึงการสังหารทหารและพลเรือนอย่างไร้สติ
วิกฤตนี้มีเบื้องหลังที่ซับซ้อน เราอาจไม่สามารถแก้ไขความแตกต่างทั้งหมดนี้ได้ในคราวเดียว แต่สิ่งที่เราทำได้คือหยุดการสู้รบและหยุดฆ่า
ประการที่สอง เราสนับสนุนการเจรจาอย่างสันติ ด้วยเหตุนี้เราหวังว่าบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศจำเป็นต้องได้รับการเคารพ และผลประโยชน์ด้านความมั่นคงที่ชอบด้วยกฎหมายของทุกประเทศควรได้รับการเคารพเช่นกัน
และกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมด รวมทั้งกฎบัตรสหประชาชาติควรได้รับการเคารพ
หากคุณต้องการมีสันติภาพที่คงทนและยั่งยืนอย่างแท้จริง
เราหวังว่าเราจะสามารถหยุดการต่อสู้และเริ่มการเจรจาได้ นั่นคือจุดยืนของเรา
เราเข้าใจว่าบางประเทศในยุโรปเห็นสิ่งนี้แตกต่างจากจีน แต่ที่จริงแล้วเจ้าหน้าที่สหภาพยุโรปกล่าวว่า ไม่ว่าเราจะมีความแตกต่างกันอย่างไร มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันในแนวทางของเรา นั่นคือเราควรพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อบรรลุสันติภาพ
ผมคิดว่านั่นเป็นพื้นฐานสำหรับความพยายามร่วมกันของเรา เรายังเชื่อว่ายังมีช่องว่างสำหรับการเจรจา และแม้กระทั่งถึงจุดที่ทั้งจีนและสหภาพยุโรปร่วมมือกันในการส่งเสริมสันติภาพ นี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ผมต้องการเน้นย้ำ
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมต้องการจะเน้นย้ำก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหภาพยุโรปไม่ควรมองผ่านปริซึมนี้เท่านั้น
อย่างที่ผมพูดเสมอ ความสัมพันธ์ของเราทั้งกับรัสเซียและสหภาพยุโรปนั้นมีหลายแง่มุม
ผมไม่คิดว่ามันเป็นวิธีที่มีเหตุผลสำหรับสหภาพยุโรป ที่จะเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับจีนกับวิกฤตยูเครนเพียงอย่างเดียว
ความจริงจีนก็ตกเป็นเหยื่อของวิกฤตนี้เช่นกัน การค้าระหว่างจีนกับหลายประเทศได้รับผลกระทบในทางลบ รวมถึงความสัมพันธ์ของเรากับยูเครนด้วย
จริงๆ แล้วจีนเป็นเพื่อนกับทั้งรัสเซียและยูเครน
ผมไม่คิดว่าจุดยืนของจีนต่อวิกฤตยูเครนควรเป็นพื้นฐานสำหรับจุดเปลี่ยน ผมไม่ได้มองอย่างนั้น
จีนเป็นประเทศเอกราช ความสัมพันธ์ของจีนกับรัสเซียนั้นเน้นเรื่องการไม่เผชิญหน้า และไม่มีเป้าหมายที่ประเทศอื่นใด เราไม่ได้เป็นพันธมิตรทางทหารกับรัสเซีย
และเราอาจไม่เห็นพ้องต้องกันในทุกประเด็นกับรัสเซีย
ในกรณีของความสัมพันธ์ของเรากับสหภาพยุโรป ความสัมพันธ์นี้ไม่ได้มีเป้าหมายที่ประเทศที่สามใดๆ และไม่ควรถูกกดขี่หรือควบคุมโดยประเทศที่สามใดๆ
ทำไมเราจึงต้องผูกมัดความสัมพันธ์ของเราไว้กับปัญหาวิกฤตยูเครนเพียงอย่างเดียว
หากคุณศึกษาประเด็นนี้จริงๆ จีนไม่ได้มีจุดยืนเช่นนี้แต่เพียงประเทศเดียว
มากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก รวมถึงอินเดีย บราซิล แอฟริกาใต้ และอีกหลายประเทศก็มีจุดยืนที่คล้ายกัน
ผมไม่เห็นยุโรปพูดถึงประเทศต่างๆ เหล่านั้นในประเด็นยูเครน
แต่ทำไมจึงจับเรื่องนี้เฉพาะกับจีน?
แน่นอนว่าบางคนอาจมีความข้องใจเกี่ยวกับการเยือนมอสโกของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง
แต่อย่างที่เราอธิบายไปแล้ว นั่นคือการเดินทางเพื่อความร่วมมือ มิตรภาพ และยิ่งกว่านั้นเพื่อสันติภาพ เราสนับสนุนการเจรจาอย่างสันติ
ในแถลงการณ์ร่วมของทั้งสองฝ่าย รัสเซียกล่าวว่าจะเปิดให้มีการเจรจาอย่างสันติเมื่อใดก็ได้ เราไม่คิดว่าบทบาทเชิงบวกของจีนในวิกฤตยูเครนควรถูกมองจากมุมมองเชิงลบ
FT: เมื่อคุณพูดถึงแนวคิดของการเจรจาอย่างสันติ คุณช่วยอธิบายได้ไหมว่าเหตุใดประธานาธิบดีสี จิ้นผิง จึงไปเยือนมอสโกและสนทนากับประธานาธิบดีปูตินหลายครั้ง แต่ไม่เคยมีการสนทนากับประธานาธิบดีเซเลนสกีเลยแม้แต่คำเดียวตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น
คุณจะพูดถึงการเจรจาอย่างสันติได้อย่างไรถ้าคุณพูดอยู่กับฝ่ายเดียว?
Fu Cong: จริงๆ แล้วเรามีการสื่อสารที่ดีกับฝ่ายยูเครน รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายได้พูดกันหลายครั้ง เอกอัครราชทูตของเรากำลังพูดคุยกับรัฐบาลยูเครน
นอกจากนี้ นายหวัง อี้ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางเพื่อการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็กำลังพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง เรากำลังทำงานร่วมกับยูเครนและมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสันติภาพ เราไม่กีดกันความเป็นไปได้ใดๆ เมื่อเราพูดถึงการพบปะเจรจา
FT: ดังนั้นเมื่อนายเซเลนสกีเชิญนายสี จิ้นผิง ไปยูเครน คำเชิญนั้นได้รับการตอบรับอย่างดีในปักกิ่งหรือไม่?
Fu Cong: ผมไม่ทราบเพราะตอนนี้ผมอยู่ที่บรัสเซลส์
FT: คุณคาดหวังว่าจะมีการโทร. การสนทนา หรือการเยี่ยมเยือนระหว่างทั้งสองหรือไม่?
Fu Cong: ผมไม่สามารถให้ข้อมูลใดๆ กับคุณได้เพราะผมไม่มีข้อมูลเหล่านั้น
แต่อย่างที่บอก ช่องทางสื่อสารระหว่างทั้งสองฝ่ายยังเปิดอยู่ แต่ถ้าถามว่าประธานาธิบดีทั้งสองจะพูดกันในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งหรือไม่ ผมไม่สามารถบอกได้
FT: คุณเข้าใจหรือไม่ว่าสหภาพยุโรปจะมองคุณในแง่ดีมากขึ้นหากการสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้น มันจะช่วยรับรองคุณในฐานะผู้สร้างสันติหรือไม่?
Fu Cong: ใช่ ผมเข้าใจ นั่นเป็นเหตุผลที่ผมบอกว่าเราไม่ตัดความเป็นไปได้ใดๆ แต่จริงๆ ถ้าพูดเรื่องนี้ต้องรู้ว่าจีนต้องการจะเคลื่อนไหวเมื่อไหร่ คุณคงเห็นแล้วว่า เมื่อจีนจัดทำแผน 12 ประเด็นนี้ เราคาดว่าอย่างน้อยประเทศต่างๆ ควรมองแผนนี้อย่างเป็นกลาง
แต่คุณเหมือนจะทำในสิ่งที่สหรัฐฯ ทำ
พอจีนพยายามสร้างสันติภาพ ความเคลื่อนไหวแรกที่สหรัฐฯ ทำคือ ศาลอาญาระหว่างประเทศหรือ ICC ออกหมายจับประธานาธิบดีปูติน
จากนั้นมีข่าวลือเกี่ยวกับจีนที่จัดหายุทโธปกรณ์ให้รัสเซีย
สิ่งเหล่านี้ล้วนบ่อนทำลายโอกาสแห่งสันติภาพ
ไม่ว่าจีนจะเคลื่อนไหวหรือแสดงท่าทีอย่างไรเพื่อส่งเสริมสันติภาพ ผมไม่รู้ว่าสหรัฐฯ จะตอบสนองอย่างไร และเราก็ไม่รู้ว่าจะได้รับการชื่นชมจากประเทศตะวันตกรวมถึงสหภาพยุโรปมากเพียงใด
จริงๆ แล้วเมื่อประธานาธิบดีสีไปมอสโก เราพูดล่วงหน้าว่าปัญหายูเครนกำลังอยู่ในวาระการประชุม และเรากำลังเรียกร้องสันติภาพ
แต่เราไม่เห็นการตอบรับเชิงบวกแม้แต่น้อยในสิ่งนั้น นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อไรก็ตามที่จีนต้องการพยายามเพื่อสันติภาพก็มักจะมีคนออกมาขัดขวางเสมอ
FT: เห็นได้ชัดว่ามีรายงานที่กล่าวถึงความเป็นไปได้ตั้งแต่ช่วงสงครามที่รัสเซียสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีได้ จีนจะตอบสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างไร และจีนได้ส่งข้อความอะไรถึงรัสเซียในเรื่องนี้บ้าง?
Fu Cong: สารของฝ่ายจีนชัดเจนมากว่าเราต่อต้านการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ผมแน่ใจว่าประเด็นนี้ได้รับการเอาใจใส่จากทุกฝ่าย รวมถึงรัสเซียด้วย.
ยิ่งนับวันความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในทะเลจีนใต้ก็ยิ่งทำท่าจะแรงขึ้น
จริงหรือที่ทูตจีนประจำสหภาพยุโรปบอกว่า คำประกาศของจีนกับรัสเซียเรื่อง “ความสัมพันธ์ไร้ขีดจำกัด” ของทั้งสองประเทศเมื่อเร็วๆ นี้เป็นเพียง “เครื่องมือแห่งวาทศิลป์” เท่านั้น?
ฟินแลนด์ (ประชากร 5.5 ล้านคน) ได้รับเข้าเป็นสมาชิกประเทศที่ 31 ของนาโตแล้ว… ทันใดนั้นเพื่อนบ้านทางตะวันออกคือรัสเซีย ก็ประกาศว่าจะตอบโต้ด้วยการเพิ่มกำลังทหารทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือ
การเยือนจีนของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่เพิ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จต่อทั้งเจ้าภาพและผู้มาเยือนอย่างน้อยในระดับหนึ่ง
ขณะที่ผู้คนจำนวนหนึ่งตื่นเต้นกับเทคโนโลยี ChatGPT ที่สามารถตอบโต้กับมนุษย์ได้อย่าง “ฉลาดมากขึ้น” แต่ก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งที่เกิดความกังวลว่ามันอาจจะ “ฉลาดเกินมนุษย์” จนไม่อาจจะควบคุมได้
อยู่ดี ๆ ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียก็ประกาศ “ยุทธศาสตร์นโยบายต่างประเทศ” ฉบับใหม่
Copyright© thaipost.net, All rights reserved., ออกแบบเว็บ จัดทำเว็บไซต์โดย iDesign