วันนี้ (22 ธ.ค.2566) นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยความคืบหน้ากรณี ลูกค้าแชร์คลิป เติมน้ำมันดีเซล ที่สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ใน อ.แก่งคอยเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2566 และสงสัยว่าเกจ์วัดน้ำมันผิดปกติ จึงขอให้สถานีทำการตรวจสอบปริมาตรน้ำมัน โดยเมื่อบีบมือจ่าย 5 ลิตร 2 ครั้ง ปริมาตรน้ำมันขาดไป 25-30 มิลลิลิตร หรือ 0.025 – 0.030 ลิตรต่อปริมาณน้ำมันที่ทดสอบ 5 ลิตร
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
ปัจจุบันสำนักชั่งตวงวัด ใช้มาตรฐานการตรวจสอบและให้คำรับรองมาตรวัดปริมาตรน้ำมันเชื้อเพลิง ตามมาตรฐานของสำนักงานชั่งตวงวัดโลก ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก ที่การกำหนดอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด หรือค่าความคลาดเคลื่อน ของปริมาตรน้ำมัน สามารถเกิน และขาดได้ ไม่เกินร้อยละ 1 หรือ ไม่เกิน 50 มิลลิลิตรต่อภาชนะทดสอบขนาดบรรจุ 5 ลิตร
นายวัฒนศักย์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วประเทศในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา จำนวน 13,366 แห่งร้อยละ 80 ของปั๊มทั่วประเทศ จำนวนรวม 180,024 หัวจ่าย
พบว่า ถูกต้อง 13,332 สถานี 179,743 หัวจ่าย และไม่ถูกต้อง 34 สถานี 281 หัวจ่าย กรณีไม่ถูกต้องยังแยกออกเป็น 2 กรณี คือ1.มาตรวัดคลาดเคลื่อน 19 สถานี จำนวน 40 หัวจ่าย และ2. มาตรวัดสิ้นอายุคำรับรอง15 สถานี จำนวน 241 หัวจ่าย
กรมการค้าภายในลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วประเทศ
กรมการค้าภายในลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วประเทศ
นายวัฒนศักย์ กล่าวว่า ขณะนี้กรมฯได้ประสานความร่วมมือไปยังสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศดำเนินการตรวจวัดปริมาตรน้ำมัน และหัวจ่าย และส่งผลการตรวจสอบไปยังสำนักงานกลางชั่งตวงวัดเป็นประจำทุกเดือน นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ยังได้ส่งชุดสายตรวจ1569 ออกไปตรวจสอบมาตรฐานหัวจ่ายปั๊มน้ำมันทั่วประเทศ โดยเฉพาะปั๊มที่อยู่ฝั่งขาเข้า และขาออก รวมทั้งปั๊มจุดแวะพักข้างทาง
อย่างไรก็ตาม หากตรวจพบสถานีบริการใด ใช้มาตรวัดที่ไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีพบว่ามีการดัดแปลงมาตรวัดจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 120,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ไทยพีบีเอสออนไลน์” ได้สอบถามผู้ใช้รถ ระบุว่า เติมน้ำมันก็อยากให้ได้น้ำมันที่เต็มลิตร เช่น เติมน้ำมันครั้งหนึ่งได้ 13-14 ลิตร ก็ควรได้13-14 ลิตรไม่ใช่หายไปแม้จะเพียงปริมาณเล็กน้อยก็คงไม่มีใครอยากให้หายไป เพราะเวลาจ่ายเงินเราจ่ายเต็มจำนวน หากปริมาณน้ำมันที่เราเติมหายไปเพราะดูเหมือนเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคมากเกินไป จึงอยากให้หน่วยงานรัฐเข้มงวดในการตรวจสอบถี่ขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
อ่านข่าวอื่นๆ:
“ข้าวหอมมะลิไทย” ยืนหนึ่งตลาดฮ่องกง คาดปี 67 แข่งราคาเดือด
หนี้บ้านพุ่ง 4.9 ล้านล้าน เสี่ยงสูง NPL หอการค้าวอนรัฐเร่งแก้
“กบฏฮูตี” โจมตีเรือสินค้าไม่กระทบไทย พณ.แนะเลี่ยงทะเลแดง