ตำรวจสืบสวนนครบาล ร่วมกับตำรวจไซเบอร์ บุกเข้าจับ นายนภดล หรือ ใหม่ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีค้ามนุษย์ และเป็นคนสนิทของ “อาเหลียง” หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน หลังสืบสวนพบว่านายใหม่ เป็นนายหน้าชักชวนคนไทยไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านและยังมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตำรวจเฝ้าสกัดจับได้ที่ คอนโดแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าววังหิน
จากการตรวจค้นห้องพัก พบปืนแบลงค์กัน 1 กระบอก พร้อมกระสุนบรรจุในซองพลาสติก อีก 8 ซอง ยาเสพติดประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) และอุปกรณ์การเสพ 1 ชุด
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า นายนภดล มีพฤติกรรมชักชวนหาคนไปทำงานในเพื่อนบ้าน ก่อนผันตัวมาเป็นนายหน้า ผู้ต้องหาเคยทำงานคอลเซ็นเตอร์มาก่อนเป็นเวลากว่า 3 ปี รวม 6 แห่ง ในพื้นที่สีหนุวิล และปอยเปต ประเทศกัมพูชา โดยใช้กลลวงทั้งหลอกว่า มีพัสดุ หรือ หลอกให้หลงรักแล้วให้เทรดบิทคอยน์
ผลงานที่ทำให้ได้เจอ อาเหลียง บอสใหญ่ชาวชาวจีนในกัมพูชา คือ งานหลอกให้รัก ซึ่งได้เงินมาถึง 10 ล้านบาท ทำให้ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้มาอยู่ในประเทศไทย คอยหาคนไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงเป็นผู้นำพาไปส่งที่ชายแดนปอยเปต โดยรับค่าจ้างเป็นรายหัว ส่วนยาเสพติดผู้ต้องหาสารภาพ อ้างว่า มีไว้เพื่อขายให้กับชาวจีนที่มาเที่ยวในประเทศไทย หลังถูกจับได้เอ่ยปากขอโทษต่อผู้เสียหายทั้งน้ำตา
ส่วน “อาเหลียง” หัวหน้าใหญ่ในฝั่งเพื่อนบ้านนั้น พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุว่า เป็นชาวจีน ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนว่ามีสัญชาติใด แต่เบื้องต้นพบว่าอาเหลียงเป็นหัวหน้าใหญ่ มีออฟฟิศคอลเซ็นเตอร์มากกว่า 8 ตึก ในประเทศกัมพูชา วิธีการหาคนไปทำงานคือ ส่งนายนภดลมาฝังตัวที่ไทยทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายจัดหาคน โดยเข้าไปเลือกคนจากกลุ่มหางานตามสื่อออนไลน์ เมื่อเจอเป้าหมายก็จะเปิดบทสนทนา เพื่อหว่านล้อมชักชวนให้ร่วมงาน หากหน้าตาดีก็จะถูกบังคับนำไปสู่การล่วงละเมิด หรือ ค้าประเวณี
ในกรณีผู้เสียหาย 2 คนนี้ ก็ถูกผู้ต้องหาชักชวนให้ไปทำงานอ้างมีค่าตอบแทนสูง เมื่อตกลงก็จะกักขังและบังคับเสพยาเสพติด ก่อนส่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่เมื่อไปถึงกลับไม่ได้ทำงานตามที่ตกลง และยังถูกบังคับล่วงละเมิดทางเพศ หลังหลบหนีกลับมาไทยได้ จึงแจ้งความกับตำรวจ
ตำรวจแจ้งข้อหานายนภดล “ร่วมกันค้ามนุษย์โดยบังคับใช้แรงงาน, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกายผู้อื่น, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”
และ “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 เป็นไอซ์ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ในชั้นจับกุม นายนภดล ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
อ่านข่าวอื่น ๆ
จับนายหน้าอายุ 19 ลวงเด็กชายวัย 13 ปี ค้าประเวณี
Related Stories
พฤศจิกายน 16, 2024