อาทิตย์, 9 กรกฎาคม 2566
สภาพอากาศวันนี้
THAILAND 31.5°C/26.9°C
LINE : @THAIPOST
เปลว สีเงิน
คิดเหนือกระแส
คิดเหนือกระแส
ทรรศนะ
อาทิตย์, 9 กรกฎาคม 2566
เมื่อวานได้เขียนถึงการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเด็กจีน ที่ต้องแข่งขันกันอย่างเข้มข้น…จนทำให้ทั้งเด็กและผู้ปกครองต่างพากันเครียดไปตามๆ กัน
ผมคุยกับอาจารย์ภากร กัทชลี ซึ่งกำลังเรียนทำปริญญาเอกที่เมืองจีนในเรื่องนี้ ก็ต้องถามว่านอกจากจะต้องแข่งกันเข้าสถาบันอุดมศึกษากันอย่างรุนแรงแล้ว พอจบออกมาการหางานทำจะต้องแข่งกันดุเดือดระดับเดียวกันหรือไม่
อาจารย์ภากรบอกว่า การหาอาชีพในเมืองจีนก็เจอกับการแข่งขันหนักหน่วง มีแรงกดดันไม่แพ้กับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ทางเลือกทางหนึ่งคือ ถ้ายังไม่ทำงานทันทีหลังจบมหาวิทยาลัยก็ทำปริญญาโทต่อ
กลายเป็นว่าตอนนี้คนจีนเรียนต่อ ป.โทไม่น้อย
“และการเรียนต่อปริญญาโทก็ต้องแข่งกันสอบเข้าอีกเช่นกัน ต้องแข่งขันกันหนักอีกรอบหนึ่ง…”
และตอนนี้คนหางานบางตำแหน่งมีแค่ปริญญาตรีอาจจะไม่พอแล้ว ต้องมีปริญญาโทด้วย
โดยเฉพาะในสาขาที่ต้องใช้ความรู้เข้มข้น เช่นด้านไอทีและเอไอ ซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่คนจีนหางานมากที่สุดในตอนนี้ เพราะมีความต้องการในตลาดแรงงานสำหรับสองด้านนี้มากขึ้น ทำให้เด็กจีนหันไปเรียนทางด้านนี้หนักขึ้นเช่นกัน
เพราะนโยบายของรัฐบาลจีนกำลังขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศทางด้านนวัตกรรม ซึ่งก็ต้องใช้คนมีความรู้ด้านเอไอมากขึ้นทุกที
เป็นงานที่ได้เงินเดือนสูงกว่าอาชีพอื่นๆ เช่นกัน
อีกสาขาหนึ่งที่คนจีนแข่งกันเรียนและหางานคือ ด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะหลังประสบการณ์โควิด-19
ทำให้เด็กจีนมุ่งเรียนทางด้านการแพทย์และสุขอนามัยมากขึ้นเช่นกัน
แต่ครอบครัวจีนส่วนใหญ่ขณะนี้ต้องการให้ลูกเรียนทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ สูงกว่าความนิยมทางด้านแพทยศาสตร์ด้วยซ้ำไป
เพราะก่อนและระหว่างการระบาดของโควิด บุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานหนักมาก อีกทั้งยังมีการฟ้องร้องโดยคนไข้ ทำให้ความนิยมด้านเรียนทางการแพทย์ลดน้อยถอยลง…แซงหน้าโดยการเรียนด้านวิศวกรรมศาสตร์
อีกด้านหนึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนที่กำลังปรากฏตัวค่อนข้างชัดเจน แต่สถิติคนว่างงานของเยาวชนกลับแย่ลง
ในภาพรวมนั้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนดูเหมือนจะเป็นไปตามแผน อันเนื่องมาจากนโยบายปลอดโควิดที่เคยเข้มข้นอย่างมากมาตลอด 3 ปี
แต่จำนวนเยาวชนว่างงานกลับเพิ่มขึ้น เป็นการเน้นย้ำถึงความท้าทายที่ยากลำบากข้างหน้าสำหรับรัฐบาลจีน ในการที่จะบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจและรักษาเสถียรภาพทางสังคม
เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนได้เปิดเผยดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจที่สำคัญสำหรับเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์
ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามปกติเพื่อหลีกเลี่ยงจากภาวะไม่ปกติ ในกิจกรรมด้านเศรษฐกิจช่วงวันหยุดยาวตรุษจีน ซึ่งมักจะตรงกับวันที่ต่างกันทุกปี
สถิติทางการแจ้งว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 2.4% เร่งขึ้นจากการขยายตัว 1.3% ในเดือนธันวาคม
ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.5% พลิกกลับจากที่ลดลง 1.8% ในเดือนก่อนหน้า
ตัวเลขการเติบโตเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร เช่น อสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานพุ่งขึ้น 5.5% สูงกว่าประมาณการ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้จ่ายด้านทุนกับสิ่งอำนวยความสะดวกด้านไฟฟ้าและเครื่องทำความร้อน และทางรถไฟพุ่งสูงขึ้นราว 20%
ตัวเลข PMI ล่าสุดบ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีนฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
โดยผลผลิตของโรงงานในเดือนกุมภาพันธ์ จากรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่แตะระดับสูงสุดในรอบกว่าทศวรรษ
นักวิเคราะห์มองว่า การเบาบางลงของโควิดทำให้สภาพเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงต้นปี
แต่พออ่านรายงานนี้ให้ละเอียดลงไปก็เจอว่าไม่ใช่ทุกอย่างเป็นข่าวไปทางบวก
ตัวเลขที่น่าจะสร้างความกังวลให้ทางการจีนคือ อัตราการว่างงานของเยาวชนเพิ่มขึ้น
อัตราว่างงานของคนอายุ 16 ถึง 24 ปี แตะ 18.1% ในช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ เทียบกับ 16.7% ในเดือนธันวาคม อัตราการว่างงานโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 5.6%
ขณะเดียวกันภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงจมอยู่ในภาวะตกต่ำอย่างหนัก
การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ลดลง 5.7% จากปีที่แล้วในช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ แม้ว่าจะเป็นการกระเตื้องขึ้นจากการลดลง 12.2% ในเดือนธันวาคม ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ตามพื้นที่หดตัว 3.6%
ในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติได้กำหนดแผนการเติบโตอย่างระมัดระวังสำหรับปีนี้ โดยตั้งเป้าจีดีพีไว้ที่ราว 5% และเป้าหมายการสร้างงาน 12 ล้านคน
แต่หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่เข้ารับตำแหน่งต่อจากหลี่ เค่อเฉียง ยอมรับว่า “ไม่ใช่งานง่าย” ที่จะบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้
หลี่ เฉียง เน้นย้ำถึงความท้าทายในการสร้างงานให้ได้เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของคนจีนรุ่นใหม่
“บัณฑิตวิทยาลัยในปีนี้คาดว่าจะสูงถึง 11.58 ล้านคน จากมุมมองของการจ้างงานจะมีแรงกดดันบางอย่าง” เขากล่าว
และเสริมว่า “เราจะขยายช่องทางการจ้างงานและช่วยเหลือเยาวชนต่อไป”
ปัญหาคนรุ่นใหม่ว่างงานย่อมเป็นเรื่องละเอียดอ่อนสำหรับประเทศจีนที่มีประชากรผู้สูงวัยมากขึ้นทุกที แต่จำนวนคนเกิดใหม่มีน้อยลง
ทำให้ภาระการดูแลพ่อแม่และลูกตกอยู่กับคนรุ่นที่จบมหาวิทยาลัย และต้องหางานทำเพื่อสร้างรายได้ให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน
ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่คนรุ่นใหม่ของจีนจะมุ่งมั่นที่จะต้องเรียนหนังสือเพื่อให้เข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง เพื่อจะได้ออกมาหางานทำที่มีรายได้มากพอที่จะปฏิบัติหน้าที่เป็นคนดี ทั้งในฐานะลูก พ่อ และสามี (หรือภรรยา) ที่ดี
ในขณะที่ต้องดำรงตนให้เป็นพลเมืองที่ดีของสังคมจีนวันนี้อีกด้วย.
เยาวชนจีนเพิ่งจะผ่านการแข่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เรียกว่า “เกาข่าว” (高考) ซึ่งมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดอย่างยิ่ง
ฮ่องกงไม่เพียงปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยอย่างราบคาบเท่านั้น ล่าสุดยังตามไล่ล่าบรรดานักเคลื่อนไหวที่กระจายตัวอยู่ต่างประเทศด้วย
การบริหารจัดการยุทธศาสตร์ว่าด้วยภูมิรัฐศาสตร์ในย่านนี้มีความเปราะบาง ละเอียดอ่อน และสลับซับซ้อนที่น่าติดตามและศึกษาอย่างยิ่ง
วันนี้ สงครามยูเครนเข้าสู่วันที่ 496…และเป็นจังหวะที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียประกาศว่ากำลังเสริมกองทัพรัสเซียด้วยนิวเคลียร์อย่างจริงจัง
อาจจะดูเหมือนไม่ได้เกี่ยวโยงอะไรกัน แต่เมื่อ “หนี้ครัวเรือน” พุ่งไปที่ 90.6% ของ GDP ขณะที่ยอดส่งออกติดลบต่อเนื่องมา 8 เดือน
พอเกิดกรณี “กบฏวากเนอร์” เมื่อวันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน 2023 ก็มีคนย้อนคิดถึง “กบฏปี 1991” กลางกรุงมอสโก
NEWS UPDATE
12:56 น.
Copyright© thaipost.net, All rights reserved., ออกแบบเว็บ จัดทำเว็บไซต์โดย iDesign