เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2566 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงาน สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก ตรัสผ่านการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ระหว่างมีพระราชดำรัสพระราชทานพรแก่พสกนิกรชาวเดนมาร์ก ในโอกาสขึ้นปีใหม่ ว่า พระองค์จะสละราชสมบัติในวันที่ 14 ม.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นวันครบรอบ 52 ปีของการครองราชย์ของพระองค์ และเจ้าชายเฟรเดอริค มกุฎราชกุมาร พระโอรสองค์โต พระชนมายุ 55 พรรษา จะทรงเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป
พระองค์ตรัสในตอนหนึ่งว่า การทรงเข้ารับการผ่าตัดพระขนอง (หลัง) เมื่อช่วงต้นปี 2023 ทำให้ทรงไตร่ตรองเกี่ยวกับการสละราชสมบัติและส่งมอบพระราชกรณียกิจให้แก่คนรุ่นถัดไป
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้สร้างความประหลาดใจ เนื่องจากพระองค์เป็นที่รักของพสกนิกร และชาวเดนมาร์กส่วนมากคาดว่าพระองค์จะครองสิริราชสมบัติต่อไปจนกว่าจะเสด็จสวรรคต
สมเด็จพระราชินีมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และมกุฎราชกุมารเฟรเดอริคแห่งเดนมาร์ก พระโอรสองค์โต
สมเด็จพระราชินีมาร์เกรเธอที่ 2 แห่งเดนมาร์ก และมกุฎราชกุมารเฟรเดอริคแห่งเดนมาร์ก พระโอรสองค์โต
สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ซึ่งมีพระชนมายุ 83 พรรษาในปี 2024 ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีที่ครองราชย์อยู่ในปัจจุบันเพียงพระองค์เดียวในโลก และยังทรงเป็นองค์พระประมุขที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดในยุโรป หลังจากที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งครองตำแหน่งนี้มาก่อน สวรรคตในปี 2022
สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 16 เม.ย.1940 และเสด็จขึ้นครองราชย์หลังการสวรรคตของพระราชบิดา เมื่อวันท่ 14 ม.ค.1972 ขณะมีพระชนมายุ 31 พรรษา ทำให้พระองค์ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีนาถแห่งเดนมาร์กพระองค์แรก นับตั้งแต่รัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 1 ซึ่งทรงเป็นพระประมุขแห่งสแกนดิเนเวียในช่วงปี 1375-1412
ขณะที่การเสด็จขึ้นครองราชย์ของเจ้าชายเฟรเดอริค มกุฎราชกุมารแห่งเดนมาร์ก ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะไม่มีการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเหมือนกับสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แต่จะเป็นการประกาศการเสด็จขึ้นครองราชย์จากพระราชวังอมาเลียนบอร์ก ที่กรุงโคเปนเฮเกน
อ่านข่าวอื่นๆ
ฉลองรับปีใหม่ 2024 ทั่วโลกจัดงานยิ่งใหญ่-จุดพลุตระการตา
“เนทันยาฮู” เตรียมคุมพรมแดนกาซา-อียิปต์ เมินความขัดแย้งขยายวงกว้าง