นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ยังไร้ปัจจัยใหม่ โดยสถานการ์ณความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังไม่มีความคืบหน้าใหม่ออกมา และนักลงทุนยังรอติดตามการประชุมเฟดและรายงานตัวเลขจ้างงานสหรัฐ รวมทั้งวันนี้ยังติดตามการประชุม BOJ พร้อมให้แนวต้าน 1,405-1,410 จุด แนวรับ 1,385-1,390 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ โดยที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาส่งผลกับตลาด หลังจากสถานการณ์ในอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสยังไม่มีประเด็นคืบหน้าใหม่ๆออกมา และตลาดยังรอติดตามปัจจัยอื่นๆ โดยเฉพาะการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และรายงานตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐ
ขณะที่ในวันนี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะมีการพิจารณาเกี่ยวกับดอกเบี้ยอย่างไร ประกอบกับยังมีการรายงานตัวเลขดัชนี PMI ฝ่ายจัดซื้อของจีนออกมา โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ที่เปิดมาแกว่งตัวบวกและลบสลับกัน
พร้อมให้แนวต้าน 1,405-1,410 จุด แนวรับ 1,385-1,390 จุด
ด้านบล.ฟินันเซีย ไซรัส คาด SET Index ยังมีแนวโน้มแกว่ง Sideways to Sideways Up ต่อเนื่องในระยะสั้นทดสอบระดับ 1,400 +-จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ยังผ่อนคลาย อย่างไรก็ตามยังคงมุมมอง Upside ของดัชนีระยะสั้นจะยังไม่กว้าง
ตลาดยังรอติดตามปัจจัยสำคัญสัปดาห์นี้ทั้งการประชุมเฟด BOJ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอย่าง GDP ไตรมาส 3/66 ของยูโรโซน รวมถึงตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในช่วงปลายสัปดาห์
ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (Bond Yield) 10 ปี ขยับขึ้นมาที่ 4.9% หลัง US Treasury Department ประกาศว่า จะออกพันธบัตร 776 พันล้านเหรียญสหรัฐ และ 816 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในไตรมาส 4/66 – ไตรมาส 1/67 แม้จะลดลงจากไตรมาส 3/66 แต่ยังถือเป็นระดับที่สูง
ส่วนปัจจัยในประเทศ นโยบายเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาทมีแนวโน้มล่าช้าไปถึงเดือนกันยายน 2567 และใช้เงินน้อยกว่า 5.6 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้ประมาณการ GDP ปี 67 ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่ 4.4% มีแนวโน้มต้องปรับลง ขณะที่โฟกัสระยะสั้นยังอยู่ที่ประกาศกำไรไตรมาส 3/66 ของบจ.โดยต้องติดตามว่าจะออกมาดี/แย่กว่าคาดอย่างไร และกระทบต่อประมาณ EPS ปี 66-67 ของตลาดมากน้อยเพียงใด ซึ่งเราเริ่มเห็นสัญญาณการปรับลง อย่างไรก็ตามด้าน Valuation ของ SET ปัจจุบันเรามองว่าไม่สูงทำให้ระดับต่ำกว่า 1,400 จุดเริ่มมี Downside ที่จำกัด โดยหาก PER ถูกปรับลงสู่กรอบ PER 13.2-13.6 เท่าจะเทียบเท่า Index ราว 1,320-1,360 จุด เป็นระดับที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาว
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
หุ้นเด่นวันนี้
อัปเดตข่าวหุ้น ราคาหุ้น หุ้นไทยวันนี้ ตลาดหลักทรัพย์ ได้ที่นี
ของหมวด การลงทุน-หุ้น
ชวนสนุกเพลิดเพลินไปกับศูนย์รวมเกมที่น่าสนใจที่นี่
ติดตามMoney
ติดตามข่าวเศรษฐกิจ การตลาด ธุรกิจส่วนตัว ภาษี บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!